By วันประกาศอิสรภาพแห่งชาติเกาหลีหรือควังบกจอล
วันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี ถือเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของเกาหลีใต้ เพราะเป็นวันที่ชาวเกาหลีเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพจากการปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นในปี 1945 โดยการสิ้นสุดของการปกครองในรูปแบบอาณานิคมเกาหลีได้ถูกปลดปล่อยหลังจากการต่อสู้มานานหลายสิบปี ซึ่งการต่อสู้ดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการต่อสู้ทางวัฒนธรรมและการเมืองที่ลึกซึ้งมากมาย
ความสำคัญของวันประกาศอิสรภาพแห่งชาติเกาหลี
การเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพแห่งชาติเกาหลี หรือที่เรียกในภาษาเกาหลีว่า Gwangbokjeol (광복절) ถือเป็นการระลึกถึง
การปลดปล่อยเกาหลีจากการปกครองของญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1910 จนถึง 1945
ชาวเกาหลีต้องทนทุกข์จากการถูกบังคับให้เสียสละหลายสิ่งหลายอย่าง ตั้งแต่การสูญเสียอำนาจอธิปไตยทางการเมืองจนถึง
การสูญเสียวัฒนธรรมและภาษาของตนเอง
ในปี 1945 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้และเกาหลีได้รับการปลดปล่อยกลับคืนสู่การปกครองของตนเอง การประกาศอิสรภาพในวันนั้นจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูเกาหลีให้กลับคืนสู่ความเป็นชาติอันทรงเกียรติอีกครั้ง
การเฉลิมฉลองในวัน Gwangbokjeol
การเฉลิมฉลอง Gwangbokjeol หรือ วันประกาศอิสรภาพแห่งชาติเกาหลี มีความสำคัญในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านการเมืองและวัฒนธรรม
การยกย่องความเป็นอิสระ: ชาวเกาหลีจะร่วมกันจัดพิธีทางการที่มีการร้องเพลงชาติและกล่าวคำสดุดีต่อบรรพบุรุษที่ได้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศ การเฉลิมฉลองในวันนี้มักจะจัดขึ้นที่ศาลากลางในเมืองหลวง เช่น กรุงโซล ซึ่งมีพิธีการต่าง ๆ เช่น
การยกธงชาติขึ้น, การให้เกียรติแก่ทหารและบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการปลดปล่อยประเทศ
การจัดกิจกรรมวัฒนธรรม: นอกจากพิธีการทางการแล้ว ในวัน Gwangbokjeol ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สะท้อนถึง
ความภาคภูมิใจในอิสรภาพ เช่น การแสดงศิลปะพื้นบ้าน การแสดงดนตรีและการเต้นรำแบบดั้งเดิม รวมถึงการจัดแสดงอาหารและสินค้าท้องถิ่นเพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเกาหลี
การมีส่วนร่วมของประชาชน: ประชาชนทั่วไปมักจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในวันดังกล่าว เช่น การเดินขบวนประท้วงเพื่อความยุติธรรมในประวัติศาสตร์, การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สงครามและอนุสรณ์สถานที่สำคัญ
การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ: ก้าวที่สำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลี
การต่อสู้เพื่ออิสรภาพของเกาหลีเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในช่วงเวลานั้น เกาหลีเผชิญกับการแทรกแซงจากมหาอำนาจต่างๆ รวมถึงการแผ่อิทธิพลของญี่ปุ่นในเกาหลี จนกระทั่งปี 1910 เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์
แม้จะถูกปกครองอย่างหนักหน่วง แต่ชาวเกาหลีก็ไม่เคยยอมแพ้ในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ พวกเขาจัดตั้งกลุ่มต่อต้านและเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นอิสระที่ยาวนาน ผ่านการต่อต้านอย่างสงบและการปฏิวัติหลายครั้ง
หลังจากการสูญเสียในสงครามโลกครั้งที่สองและการประกาศยอมแพ้ของญี่ปุ่นในปี 1945 ชาวเกาหลีได้พิสูจน์ถึงการต่อสู้ที่ยาวนาน และได้รับการปลดปล่อยในที่สุด
วัน Gwangbokjeol กับการเสริมสร้างความรู้สึกแห่งชาติ
วัน Gwangbokjeol ไม่เพียงแต่เป็นการระลึกถึงอดีต แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความรู้สึกแห่งชาติและการรวมตัวกันในฐานะเกาหลีใต้ที่เป็นอิสระและรุ่งเรืองในปัจจุบัน โดยที่ทุกคนในประเทศจะร่วมมือกันเพื่อรักษาความเป็นอิสระและพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
📍ติดตามเราได้ที่📍
